ดาราเจอมรสุมข่าวฉาว ชี้ชัยด้วย 'กึ๋น' กุนซือ

7/10/2558 Unknown 0 Comments


เรียกว่าเรตติ้งพุ่งกระฉูดจนปรอทวัดแทบแตก ทั้งทีวี เว็บไซต์ ดาหน้ากันยิงสด การแถลงข่าวของอดีตคู่รักนักร้อง "โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์" ที่ออกมายอมรับแบบแมนๆ ว่า "รักหมดอายุ" อดีตนางเอกวิกมากสี "แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์"พร้อมกับยืดอกรับผิดในทุกเรื่อง และย้ำชัดเจนว่า..."เป็นคนเคยรัก หากจะให้กลับไป ฐานะไม่เหมือนเดิม" เรียกว่าตอบคำถามผู้สื่อข่าวได้อย่างได้ใจแฟนคลับ ที่สำคัญก็จบลงไปอย่าง "บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น" ให้ใครได้ติดใจ
อย่างไรก็ดี การที่ศิลปินคนหนึ่ง จะออกมาแถลงข่าวด้วยถ้อยคำที่ออกมาจากความรู้สึก บางครั้งก็ต้องมีการไกด์นำจากผู้มีประสบการณ์ หรือ ต้นสังกัด เพราะหากเผลอพูดสิ่งใดออกไป จะพาให้คน "รัก" หรือ "เกลียด" ทั้งประเทศก็เป็นได้
ด้วยเหตุนี้ "ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์" จึงได้ต่อสายตรงพูดคุยนักประชาสัมพันธ์รายหนึ่ง ยอมรับว่าการแถลงข่าวของดาราที่พบกับมรสุมข่าวฉาว จำเป็นต้องมี "กุนซือ" เพื่อแนะนำ 
นักประชาสัมพันธ์ค่ายยักษ์แห่งหนึ่ง กล่าวว่า วิธีการแก้ปัญหา ศิลปินดาราเจอข่าวฉาว อันดับแรก จะมีการพูดคุยกับตัวเด็ก คือจะเรียกเด็กเข้ามาถามไถ่ถึงปัญหา ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร มีหลักฐานหรือไม่ หากเป็นปัญหาใหญ่ ก็จะมีผู้บริหารเข้ามาพูดคุยด้วย โดยจะไล่อันดับลงมา หากผู้บริหารสูงสุดเข้ามาไม่ได้ ก็จะให้รองลงมา เข้ามาร่วมพูดคุย
2.จะมีการวางแผนกันก่อน ว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ เช่น จะมีการแถลงข่าวหรือไม่ หรือ จะมีการส่งข้อความชี้แจง หากมีการแถลงข่าว ก็อาจจะมีคำแนะนำไปยังดารา หรือ ตัวศิลปิน ว่าควรพูดหรือทำอย่างไร แต่ทุกอย่างต้องเป็น "ข้อเท็จจริง" จะไม่เลือกใช้วิธีการ "เตี๊ยม" แต่สิ่งที่เน้นย้ำเป็นพิเศษ คือ "จะไม่พูดพาดพิง"


ที่ผ่านมาเคยมีกรณี นางแบบรุ่นใหญ่ มีปัญหากับเพื่อนนางแบบ ปมร่วมธุรกิจกันแล้วเจ๊ง ซึ่งต่างฝ่ายเคยเป็นเพื่อนรักกัน ทางเราก็ได้มีการเรียกนางแบบในสังกัดเข้ามาพูดคุย โดยมีทีมบริหาร พร้อมกับถามถึงเรื่องเอกสารหลักฐาน สิ่งที่เราต้องการคือ ข้อมูล หากมีการแถลงข่าวแล้ว จะต้อง "ชัดเจน" และ "จบ" จะไม่มีการมานั่งแถลงข่าวซ้ำอีก
สำหรับเรื่องโซเชียลเน็ตเวิร์ก นักประชาสัมพันธ์รายเดิมจากฝั่งอโศก ยอมรับว่า"ไม่มีทีมแก้ข่าวผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก แต่ก็มีคนดูแลเรื่อง IG ทวิตเตอร์ เพราะหากมีเรื่องราวใหญ่โตจริงๆ การแถลงข่าวตอบข้อเท็จจริงจะเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้ศิลปิน ดาราคนนั้นๆ ได้เปิดใจ ซึ่งปัญหาที่พบส่วนใหญ่ก็คือ "รักๆ เลิกๆ" นี่แหละ 

ขณะที่นักประชาสัมพันธ์อิสระรายหนึ่ง ที่เคยทำงานในค่ายหนังยักษ์อันดันต้นๆ ของไทย ได้เล่าประสบการณ์การแก้ปัญหาข่าวฉาว ว่า หลักการสำคัญก็ไม่แตกต่างกัน คือจะมีการเรียกดาราคนนั้นเข้ามาร่วมพูดคุยกันก่อน แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ ดาราคนนั้นเซ็นสัญญากับต้นสังกัดหรือไม่ ถ้าไม่ได้เซ็น ก็จะเข้าไปทำอะไรไม่ได้มาก
ที่ผ่านมา ได้มีกรณี ดาราหญิงรายหนึ่ง ทำ "จุกโผล่" ในงานพรมแดง งานหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นสังคมฮือฮาเป็นอย่างมาก โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าดาราคนนั้น "ตั้งใจ" ทำเพื่อเรียกกระแสหรือไม่ แม้ดาราชายที่เดินคู่กันจะยืนยันว่าเธอไม่ได้ตั้งใจ แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ทางต้นสังกัดจึงเรียกเข้ามาพูดคุย ในเบื้องต้น ได้ทำการว่ากล่าวตักเตือน และกำชับให้ระมัดระวังการแต่งกายให้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยถึงขั้นจะตัดบทออกจากภาพยนตร์ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ตัดออก แต่ก็ได้มีการคาดโทษเอาไว้ เพราะตอนนั้นเธอยังมีโปรเจกต์ภาพยนตร์ต่อเนื่อง

นักประชาสัมพันธ์รายเดิม ยังยกตัวอย่าง กรณี พระเอกวิกน้อยสี ได้คบหานางเอกสาวน้อยคนหนึ่ง จนกระทั่งวันหนึ่งทนไม่ไหวได้อัดคลิปแฉความสัมพันธ์ หลังจากนั้น พระเอกรายนี้ได้ออกมาให้ข่าวแบบไร้กุนซือ เวลาออกมาพูด ถึงแม้จะพูดความจริง แต่บางคำพูดก็อาจจะทำให้เขาดูเลวร้ายในสายตาคนอื่นได้ แต่ต่อมาได้มีการแถลงข่าวอีกครั้ง ภาพลักษณ์ ตรงนั้น ก็ยากที่จะลบล้างออกไปจากสายตาประชาชน ฉะนั้น เรื่องกุนซือ ถือเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น บริษัทใหญ่ ๆ ก็มักจะมีกุนซือที่ดี ยิ่งถ้ามีกองหนุนที่ดี ก็ยิ่งทำให้สามารถแก้ภาพลักษณ์ได้
"ส่วนเรื่องการ "เตี๊ยม" นั้น ต้องยอมรับว่ามีจริงๆ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันกับภาพลักษณ์ศิลปินดารา ยิ่งถ้าเรื่องนั้นเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายด้วยแล้ว ก็ยิ่งต้องมีฝ่ายกฎหมายเข้าพูดคุยกันก่อนแถลงข่าว เพราะหากพูดไม่ดีออกไป ก็อาจจะส่งผลต่อคดีความได้" พีอาร์หนุ่ม ผู้คร่ำหวอดในวงการบันเทิง กล่าว



ที่มา  thairath

You Might Also Like