เตือนภัย! คลื่นยักษ์ถล่มรอบใหม่ 2 อำเภออ่วม ชาวบ้านวอนขอ..?

12/27/2558 Unknown 0 Comments



ผู้สื่อข่าวรายงานในวันนี้ (28 ธ.ค.58) ว่า คลื่นทะเลริมฝั่งตะวันออกฝั่งของอ่าวไทยซัดเข้าหาฝั่งอย่างรุนแรงอีกครั้ง โดยเฉพาะที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ที่บ้านหน้าศาล ม.3 ต.หน้าสตน ซึ่งอยู่ริมทะเลมีสะพานรูปตัวทียื่นออกไปในทะเล และมีมัสยิดมุสลิมสามัคคีอยู่กลางชุมชนใกล้ๆ กับเขื่อนกันคลื่นหันหน้าออกไปทางทะเล เมื่อคลื่นทะเลขนาดใหญ่ปะทะกับตัวเขื่อนน้ำทะเลลอยตัวขึ้นสูง 5-6 เมตร ฟุ้งกระจายเป็นละอองลอยไปในอากาศ ส่วนอีกฝั่งของสะพานตัวทีบริเวณริมทะเลมีหินขนาดใหญ่วางเป็นแนว ซึ่งช่วยกันคลื่นทะเลขนาดใหญ่ได้ ทำให้ความแรงของคลื่นลดลงก่อนถึงเขื่อน

ในขณะที่ถนนสายหัวไทร-ปากพนัง ที่สร้างคู่ขนานไปกับฝั่งทะเล บางว่าหลายจุดถูกคลื่นซัดถึงถนนจนพังเสียหายจนต้องปิดป้ายประกาศ “น้ำกัดเซาะไหล่ทาง” เตือนชาวบ้านที่ขับยวดยานผ่านไปมาเพื่อป้องกันอันตราย แม้ว่าเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 1 จะนำหินขนาดใหญ่และแผ่นซีเมนต์มาวางกั้น แต่ก็ไม่สามารถทนทานความแรงของคลื่นทะเลขนาดใหญ่สูงประมาณ 4-5 เมตรที่ซัดเข้าฝั่งปะทะแนวกันคลื่นตลอดเวลา ซัดกำแพงกั้นจนน้ำทะเลฟุ้งกระจายเป็นละออง แม้จะเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุกปี แต่ส่งผลให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมทะเลเดือดร้อนหนักทุกปีเช่นกัน



อย่างเช่นที่บ้านเลขที่ 76 ม.2 ต.ท่าพญา อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านไม้ยกสูงอยู่ริมทะเล ก่อนหน้านี้เพียงไม่วันยังเป็นตัวบ้านที่สมบูรณ์ แม้โครงสร้างบ้านจะเป็นคอนกรีตแข็งแรงแต่ก็ต้านคลื่นไม่ไหว ถูกคลื่นซัดจนทรุด และมีทหาร จาก มทบ.41 เข้ามาช่วยขนย้ายไปเมื่อวันหยุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าของบ้านที่ถูกรื้อคือนายไพบูลย์ สังขไพฑูรย์ อายุ 58 ปี กล่าวอย่างหมดอาลัยตายอยากว่า บริเวณนี้ก่อนเคยอาศัยอยู่ในกลุ่มญาติพี่น้องทั้งหมดกว่า 10 ครอบครัว หลังโดนคลื่นซัดจนพังเสียหายอย่างยับเยินก็ต้องย้ายไปอยู่บ้านญาติบ้างไปอยู่ต่างพื้นที่บ้าง และขอบคุณทหารที่ช่วยเหลือ

“บริเวณนี้เหลือบ้านหลังสุดท้าย ซึ่งเป็นบ้านพี่สาวที่ตนมาขออาศัยอยู่ ยังเหลืออีก 1 หลังเป็นที่พักพิงของตนและครอบครัว เป็นหลังสุดท้ายที่กำลังจะถูกคลื่นซัดเช่นกัน เราต้องการให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง นำหินมาทำแนวกันคลื่นทะเลเพื่อห้องกันบ้านหลังสุดท้ายหลังนี้ให้อยู่รอดปลอดภัย ซึ่งหากโดนคลื่นซัดจนพังอีกเราอย่างน้อย 2-3 ครอบครัวต้องหมดเนื้อหมดตัว ไร้ที่อยู่อาศัยอย่างแน่นอน และไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่ทำให้ริมหาดถูกคลื่นซัดรุนแรงกินบริเวณบ้านของชาวบ้านมาจากการดูดทรายจากชายฝั่งทะเลหรือไม่ อยากให้ช่วยตรวจสอบด้วย” นายไพบูรณ์ฯ ระบุ
 ...................
ที่มา ข่าวสด

You Might Also Like